ตอนวิจารณ์หนังกงการ The Hobbit: The Battle of the Five Armies
ซึ่งจำต้องขอออกตัวไว้ก่อนว่าแน่ๆๆ แล้ว ว่าเขตตัวไม่ได้ชื่นชอบ หนังไตรภาคของฮอบบิทมากถ้าเปรียบเท่ากับกถา The Lord of The Ring สักเท่าไหร่ ดังที่ตัวนิยายของ The Hobbit นั้นเอิ้นได้ว่าความแถวสั้นกว่า หนังสือ 1 ภาคของหนังเรื่อง The Lord of the ring ด้วยซ้ำไป
พร้อมทั้งการที่จักนำหนังมายืดขยายให้มีความยาวถึง 3 ภาคนั้นเหตุผลประการเดียวที่ฟังขึ้นที่สุดก็คือการที่สตูดิโออาศัยบุญเก่าและชื่อของ ปีเตอร์ แจ็คสัน ผู้กำกับการแสดงหนังในการนำมาหากินเพื่อโกยรายได้ให้กับสตูดิโอกลุ่มวอร์เนอร์นั่นเอง
แต่เราก็ไม่ขอปิดประตูเรื่องราวความบันเทิงสิ่งของหนัง แฟรนชายส์มัชฌิมโลก ถึงทั้งที่ว่าตัวเองจักแอบสัปปะหงกทั้งสิ้นทั้งสองภาคก่อนที่ตัดผ่านมาก็ตามที และถ้าแม้เอามาเปรียบเทียบกับไตรภาคมถ้าหากาพย์แหวนครองพิภพแล้ว ฮอบบิทก็ตลอดเป็นรองในทุกๆ ด้านไม่ว่าจักเป็นความบันเทิงหรือไม่เนื้อหาสาระของตัวเรื่องเองที่คาราวานที่วงแหวนนั้นจะมีรายละเอียดในการทำภารกิจมากกว่า การผจญภัยของบิลโบ แบ๊กกินส์
และจะว่าไปแล้วอันที่แท้จริงนั้นเหตุการณ์ของหนังในภาคเรื่อง The Battle of the Five Armies ทำได้รวบจบได้ตั้งแต่ The Hobbit: The Desolation of Smaug เพราะว่าภายหลังที่บรรดาส่วนคนแคระไปปลุกมังกรสมอว์กให้ตื่นนอนขึ้นมาแล้ว
เพราะว่าเนื้อความต่อจากนั้นก็มีแค่เพียงการที่กองทัพทั้ง 5 เหล่าทัพบุกมาเพื่อช่วงชิงทรัพย์สมบัติคืน ซึ่งถ้าว่ากันในเชิงการทำโปรแกรมหนังแล้วเหตุการณ์เหล่านี้อาจจักเล่าจบได้ภายในครึ่งชั่วโมง
แต่ว่าก็อย่างที่ได้ทูลไว้ตามที่ได้เริ่มต้นนำไว้ว่าด้วยเหตุผลทางการตลาด ผนังการสู้รบกว่า 45 นาทีที่อัดแน่นไปด้วยม่านแอ็คชั่นจึงจัดเต็มให้ผู้ชมสนุกไปกับการโรมรันกันอย่างบ้าเเลื่องลือด จนเราอาจจักกล่าวได้ว่ามันเป็นมู่ลี่รบที่สนุกด้วยกันยาวมากเรื่องหนึ่งในรอบปี 2014 แต่ครั้นเมื่อเทียบกับองค์ประกอบอื่นๆในหนังแล้ว ภาคนี้ก็แทบจักจัดได้ว่าเป็น ภาคยืด มากกว่าภาคจบ
ซึ่งถึงแม้ว่าทุกอย่างในตัวอย่างหนังใหม่จะล่องลอย ไม่ได้มีเนื้อหาสาระเป็นชิ้นเป็นอัน การเกริ่นเรื่องราวของศัตรูผู้ยิ่งใหญ่อย่างซอรอนที่จักมีบทบาทสำคัญมากในเรื่อง The Lord of the ring ก็เป็นจุดที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็นพล็อตช่วงสั้นๆ ตอนที่เลดี้การาเดรียลเดินทางมาช่วยแกนดัลฟ์ และใช้พลังขับไล่ซอรอนไป รวมไปถึงผนังจบก่อนที่จักเป็นที่บังตาเปิดเรื่องในไตรภาคแห่งแหวนด้วย
เพราะสิ่งที่คิดว่าคุ้มค่าอีกชนิดก็คือการชมภาพยนตร์เรื่องนี้ในรูปแบบ 3D รวมไปถึง IMAX ที่เรียกได้ว่างานด้านภาพนั้นค่อนข้างตื่นตาตื่นใจมากๆ ในการรับชมแบบจอใหญ่ยักษ์ เพราะว่าอย่างน้อยใครก็ตามที่ติดตามแฟรนชายส์หนังชุดนี้มานมนาน การอุบัติแบบนี้ไม่ได้มีกันเป็นประจำในโรงภาพยนตร์
@พริตตี้ปลาสลิด
มอบให้ 3 คะแนนจาก 5 คะแนน
การ์ตูน Boruto - Naruto the Movie เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว
ภายหลังที่ อาจารย์ คิชิโมโตะ มาซาชิ ได้ให้กำเนิดมาเปิดเปรยหนังภาคใหม่ Boruto Naruto the Movie อย่างไม่เป็นทางการไปแล้วในงานเปิดฉายภาพยนตร์เรื่อง The Last Naruto the Movie ในวันที่ 6 ธันวาคม 2014 ที่เปลี่ยนมา
โดยในครั้งนั้นยังไม่มีภาพพร้อมด้วยข้อมูลอะไรออกมาให้ดูกันเลย เพราะเป็นการเปิดเล่าจากปากเท่านั้น กับในวันนี้ได้มีการเริ่มหนังอย่างสดทางการแล้ว ที่เว็บไซต์ http://www.boruto-movie.com
กับเพราะว่าการ์ตูนเรื่อง นารูโตะ แม้ว่าจะอวสานไปแล้วในตอนที่ 700 พร้อมกับมีจอเงิน The Last Naruto the Movie คลอดมาเพื่อเสริมเรื่องราวข้อคดีรักของนารูโตะก่อนที่จะแต่งงานพร้อมด้วยมีลูก
ซึ่งสมมตดูจากชื่อก็คิดว่าจักหมดแค่นี้ แต่ดูเหมือนทาง Jump จักยังไม่มุ่งหมายให้จบลงง่ายๆ ก็เพราะว่ากระแสก็ยังค่อนข้างดีอยู่ จึงมีการดำเนินเรื่องถัดยังรุ่นลูกของนารูโตะแทน
กับสมมติใครที่อ่านตอนจบของหนังเข้าใหม่การ์ตูนนารูโตะมาแล้วก็คงรู้จัก Boruto ลูกชายของนารูโตะกันดี ซึ่งแน่ๆๆ แล้วโปรเจคภาคลูกนี้ก็มีการวางแผนทำมานานแล้ว ในชื่อ Naruto's New Era Opening Project ที่เคยเกริ่นไปก่อนหน้านี้
กับเหตุด้วยภาพที่ปรากฎอยู่ในเว็บไซต์ของจอเงินเรื่องย่อละคร Boruto Naruto the Movie น่าเสียดายว่ายังไม่ใช่ภาพใหม่ แต่เป็นการตัดเอาภาพส่วนหนึ่งของการ์ตูนนารูโตะวิภาคที่ 700 มาให้ทัศนาเท่านั้น เพราะว่ามันสื่อถึงเนื้อหาหลักๆ ในจอเงิน นั่นก็คือการฝึกฝนเป็นนินจาของโบรูโตะ ตามที่นารูโตะได้บอกกับลูกของเขาในการ์ตูนตอนที่ 700 ไว้ว่า พ่อรู้ว่าลูกอาจจักต้องลำบาก แต่ลูกก็ต้องเรียนรู้พร้อมด้วยอดทน เพราะลูกก็เป็นนินจาอย่างกัน กับมีข้อความด้านล่างว่า ยุคใหม่ได้โหมโรงต้นขึ้นแล้ว